การตกปลามีกันทั่วในประเทศและสวนมากจะตกกันในบ่อตกปลาเพราะบางครั้งการตกปลาในแหล่งธรรมชาตินั้นหาสถานที่ตกได้ยากมาก นี้เป็นเหตุผลที่ผู้คนส่วนใหญ่จึงตกปลาบ่อกันและต้องมีสูตรในการตกปลาเราจึงมีสูตรที่จะเนาะนำให้1สูตร
1)สูตรเหยื่อแข่งตกปลาสวายตามบ่อตกปลา
บทความนี้ขอนำเสนอประสบการณ์ ทริปท่องเที่ยวตกปลาในหัวข้อ สูตรเหยื่อแข่งตกปลาสวายตามบ่อตกปลา หลายท่านคงสงสัยว่าตกลงผมจะพาท่องเที่ยวทำบุญตามวัดต่างๆ หรือจะพาไปทำบาป ครับนอกจากผมและครอบครัวจะชอบทำบุญแล้ว ผมเองก็เคยไปศึกษาดูงานและท่องเที่ยวต่างประเทศ เช่นอิตาลี สิงคโปร เกาหลีใต้ 2ครั้ง และประเทศจีนแต่ไม่เคยคิดจะเขียนเว็บไซต์ตอนนี้นึกอยากเขียนขึ้นมาก็ลืมหมดแล้ว ส่วนตัวผมเองชอบการท่องเที่ยวตกปลาตามสถานที่ต่างๆ เป็นชีวิตจิตใจเห็นที่ไหนมีน้ำไม่ได้เป็นอยากตกปลาขึ้นมาทันที ช่วงนี้ดูข่าวจากโทรทัศน์ต่างจังหวัดฝนตกน้ำท่วมหลายจังหวัด ผมยังคิดไว้ว่าถ้าบริษัทมีวันหยุดติดต่อกันหลายวันจะออกทริปต่างจังหวัดสักหน่อย
นอกเรื่องไปเสียนานมาเข้าเรื่องสูตรเหยื่อแข่งต่อ ปกติแล้วปลาก็ไม่ต่างอะไรกับคนเราที่จะชอบกินของที่มีรสชาติอร่อย หรือท่านจะปฏิเสธว่าไม่ใช่ ในการตกปลาแข่งตามบ่อนั้นหลายท่านคงคิดว่าตกยังไงมันก็กินเพราะเขาเลี้ยงไว้ให้ตก ผมเองก็เคยคิดเช่นนั้นเหมือนกันแต่มันไม่ใช่ ถ้าคุณไม่มีประสบการณ์พอตัวอย่าไปนึกถึงถ้วยรางวัลเลยครับ นึกก่อนว่าจะทำอย่างไรให้ปลามันกินเหยื่อของคุณ ที่จริงแล้วมันต้องใช้เทคนิคเข้าช่วย ประกอบกับมีเหยื่อดีร่วมกันจะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่ได้เอาไว้บทความหน้าผมจะพูดถึงเรื่องเทคนิคก็แล้วกันเพราะขึ้นเรื่องเหยื่อแล้ว
ถ้วยรางวัลนี้ผมได้จากการแข่งขันตกปลาที่บ่อตกปลาเมืองไทย อยู่อำเภอบางบ่อ จ.สมุทรปราการ วันนั้นปลากินดีมากผมเกือบจะได้ 2 รางวัล รางวัลปลาไซร์ที่กำหนด ขณะแข่งขันคะแนนผมนำอันดับ 1 ด้วยปลาน้ำหนักสูงสุดในขณะนั้น 12 กก. มาตั้งแต่เวลา 11: 35 น. นำมาตลอด จนกระทั่งเวลาประมาณ 16:30 น. งานเข้า เย่อปลาขึ้นมากะดูด้วยสายตาได้ไซร์ประมาณ 2.6กก. (การแข่งขันทุกบ่อห้ามชั่งปลาที่ตกได้ก่อนเด็ดขาด) ก็เดินเอาปลาไปชั่งที่กรรมการๆ ที่ทำหน้าที่ปลดเบ็ดออกจากปากปลาได้เรียกให้ผมดูปลาที่ผมนำไปชั่งว่าเกี่ยวจากนอกปากเข้าข้างใน แต่ที่เสียความรู้สึกมากเลยเพราะกรรมการลองชั่งน้ำหนักดูผลออกมาแล้วปรากฏว่าน้ำหนักพอดีเป๊ะเลยแต่ฟาวส์ เพราะกติกาเบ็ดต้องเกี่ยวที่ปากปลาจากข้างในออกข้างนอกเท่านั้น ผมเดินคอตกมาที่ซุ้มปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไรเอาใหม่ ตลอดจนสิ้นสุดเวลาการแข่งขัน 17:00 น. ผมรับถ้วยรางวัลปลาใหญ่ และเงินรางวัลไม่มากนัก
หัวเชื้อตกปลาที่ผมใช้ในวันนั้นดังนี้ครับ
1. หัวเชื้อกลิ่นใบเตย 1 ขวด
2. หัวเชื้อกลิ่นมะลิ 1/2 ขวด
3. หัวเชื้อกลิ่นนมแมว 1/4 ขวด
4. น้ำตาลทราย 6-7 ช้อนโต๊ะ
5. กระทิคั้นเอง 2 ขวดหัวเชื้อ
6. ผงชูรส 1-2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- นำกระทิตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวให้แตกมัน ใส่ผงชูรสและน้ำตาลลงไป
- ใส่หัวเชื้อจนครบหมดทุกกลิ่น และเคี่ยวต่อสักครู่ด้วยไฟอ่อนๆ จนแตกกลิ่นหอมอ่อนๆ แล้วค่อยยกออกจากเตา รอจนกระทั่งเย็นลงแล้วค่อยกรอกใส่ขวดหัวเชื้อ หรือภาชนะอื่นๆ แต่ผมขอแนะนำที่เป็นขวดแก้วจะดีกว่าเพราะรักษากลิ่นไว้ไม่เพี้ยน
วิธีใช้
นำไปผสมกับน้ำในบ่อที่เราจะตกในอัตรา 1-1 ส่วน แล้วใส่ขวดฉีดพ่นไปที่ขนมปังที่ปั้นใส่ตระกร้อและชิ้นที่เกี่ยวเบ็ดอยู่ แต่ถ้าจะให้ดีควรแบ่งขนมปังป่นสัก 1 กิโลกรัมไว้ต่างหาก แล้วนำหัวเชื้อนี้ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันตีอ่อยเหยื่อก่อนตกจริงสักประมาณ 4-5 ไม้ จะทำให้ปลาเข้าเร็วขึ้น เมื่อตกไปสักระยะหนึ่งก็ตีอ่อยอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ผมเคยลงในเว็บสยามฟิชชิ่ง และฟิชชิ่งฟอร์ยู มีสมาชิกนักตกปลาได้โทรมาแจ้งผมหลายท่าน ว่าสูตรนี้ได้ผลจริง เคล็ดลับที่นักแข่งหลายๆ ท่าน ที่เผยไม่หมด แต่สำหรับผมไม่ปิดบัง ตัวเด็ดจะอยู่ที่ผงชูรส ส่วนกลิ่นเป็นตัวนำทาง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่าง นักแข่งที่ดีควรเตรียมความพร้อมสูตรเหยื่อสำรองไว้หลายๆสูตร แต่สูตรนี้มาตรฐานใช้ได้ตามบ่อตกปลาทั่วประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น